Benchmarking
1. หลักการ/แนวคิด/ประวัติความเป็นมา
Benchmarking เป็นศัพท์ในการสำรวจทางธรณีวิทยาที่ใช้ในการวัดระยะโดยเปรียบเทียบกับจุดอ้างอิง ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของ พอล เจมส์ โรแบร์(2543:10-11) ที่กล่าวว่ามีการนำ Benchmark มาใช้ในการสำรวจธรณีวิทยาของประเทศสหรัฐอเมริกา(U.S. Geological Survey)และถูกยืมมาใช้ในการพัฒนาระบบการบริหารงานที่ถูกพัฒนาขึ้นในทศวรรษที่ 1980 เป็นการวัดระยะ โดยเปรียบเทียบกับจุดที่ใช้อ้างอิง
2. เครื่องมือนี้คืออะไร/มีองค์ประกอบอะไร
“Benchmarking” คือ กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) จากองค์กรอื่นภายใต้กฎกติกาสากล โดยมีแนวคิดที่ว่า องค์กรไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ยังมีองค์กรที่เก่งมากกว่าในบางเรื่อง การศึกษาจากประสบการณ์ตรงขององค์กรอื่นแล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดเวลาและลดการลองผิดลองถูก Benchmarking จึงเป็นเส้นทางลัดสู่ความเป็นเลิศอย่างก้าวกระโดด
3. เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร
- เพื่อความยั่งยืนขององค์กร : ยกระดับความสามารถของตนเองเพื่อให้แข่งขันได้ จึงต้องมีการเรียนรู้และปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง
- เพื่อการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด : เป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นนวัตกรรม (Innovation) ในองค์กร ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงปรับปรุงในระยะเวลาอันสั้น
4. ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี:
- นำข้อมูลมาปรับปรุงองค์กรของตน เพื่อเกิดแนวทางในการปรับปรุงกลยุทธด้านต่างๆ
- เห็นภาพรวมขององค์กรชัดเจนและ เกิดการเรียนรู้สิ่งที่ดีๆ จากหน่วยงานอื่น
- เกิดความพร้อมในการรับสภาพต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ข้อเสีย
- บุคลากรต้องรู้รายละเอียดองค์กรอย่างดี เพื่อจะได้ทราบว่าตนมีจุดเด่น หรือจุดด้อยอย่างไร
- ต้องเลือกองค์กรที่ได้รับการยอมรับ เพื่อจะได้นำจุดดีมาปรับปรุง
- ข้อมูลที่เป็นความลับทางองค์กร ค่อนข้างจะหายาก
- ในบางครั้งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน งบประมาณสูง
5. ขั้นตอนการจัดทำ ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก คือ
1. การวางแผน
- กำหนดเรื่องที่จะทำ Benchmarking
- กำหนดผู้ที่ต้องการเปรียบเทียบด้วย
- กำหนดวิธีการเก็บข้อมูล และเก็บข้อมูล
2. การวิเคราะห์
- วิเคราะห์ความแตกต่าง (Gap) ปัจจุบัน
- ประมาณแนวโน้มความแตกต่างในอนาคต
- กำหนดเรื่องที่จะทำ Benchmarking
- กำหนดผู้ที่ต้องการเปรียบเทียบด้วย
- กำหนดวิธีการเก็บข้อมูล และเก็บข้อมูล
2. การวิเคราะห์
- วิเคราะห์ความแตกต่าง (Gap) ปัจจุบัน
- ประมาณแนวโน้มความแตกต่างในอนาคต
3. การบูรณาการ
- สื่อผลการวิเคราะห์ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
- ตั้งเป้าหมาย (Function Goals)
4. การปฏิบัติ
- จัดทำแผนปฏิบัติการ
- นำไปปฏิบัติจริงและติดตามผล
- ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
6. มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้างและได้ผลสรุปอย่างไร
- รณินทร์ กิจกล้า ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนสถาบันพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตชุมชนไทย อาจารย์ประจำวิชาการเมืองและนโยบายสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัยในพระราชูปถัมภ์ E-mail : siamenvironment@yahoo.com
7.กรณีศึกษา
- องค์กรแรกคือ Xerox Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นที่มีราคาต่ำกว่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น